เคสินาคา ดวงใจพญานาค (จำปาลาว)

เคสินาคา ดวงใจพญานาค (จำปาลาว)

0 รีวิว  0 รีวิว    
รหัสสินค้า: เคสินาคา ดวงใจพญานาค
ของหมด (ต้องการสินค้า)
ราคา: 319.00 บาท 79.75 บาท
ประหยัด: 239.25 บาท ( 75.00% )

เนื้อหาบางส่วน

ตอนที่ ๑

            แกร๊ก....แกร๊ก....

            เสียงแปลกปลอมที่แทรกผ่านความมืดเข้ามากระทบโสตประสาท ทำให้ผู้ที่เพิ่งเข้าสู่นิทรารมณ์เปิดเปลือกตายาวรีสวยได้รูปขึ้นด้วยแววดุกล้า ประกายสีเขียวประหลาดทอแสงเรืองรองในตาคู่สวยนั้นดูน่าสะพรึงกลัว แวบเดียวเท่านั้นเสียงกระซิบฝากผ่านสายลมบางเบาที่เข้ามาสัมผัสใบหูสวยที่มีไรผมปิดบังเพียงบางๆ ริมฝีบางเรียบสนิทอย่างคนเย่อหยิ่งถือดี แย้มยิ้มอย่างได้ยินสุรเสียงที่น่ายินดีเสียเต็มประดา พลางเปลือกตายาวรีคู่สวยนั้นก็ปิดลงแลเข้าสู่นิทรารมณ์อีกครั้ง

            แกร๊ก....แกร๊ก....ผ่างงงงงง…แอ็ดดดดดด.....

            “อ้าว!...ไหงประตูมันไม่ได้ล็อควะ”

            เสียงกระซิบกระซาบให้ได้ยินกันเพียงแค่สองคน เจ้าของคำพูดมีแววตาไหววูบสั่นเครือเจือไปด้วยความกังวลและหวาดกลัว มือหยาบกร้านดำคล้ำละออกจากบานประตูที่เปิดอ้าออกอย่างง่ายดายเพียงแค่งัดแงะไม่กี่ครั้ง เหมือนกับว่ามันเปิดรออยู่แล้ว มิใช่ถูกหลงลืมปิดล็อค

            “ม..มึง..มึงคิดอะไร นี่มันตีสองแล้วนะโว้ย! ถ้ามึงไม่รีบเดี๋ยวก็ฟ้าสางกันพอดี ของก็จะลงเรือไม่ทันด้วย”

            เจ้าของมือหยาบกร้านยังคงมองค้างเข้าไปในโถงมืดมิดที่เห็นอยู่ตรงหน้า ประตูด้านหลังแกลอรี่นี้หากนั่งอยู่ด้านขวาของประตูจะสามารถมองเห็นภายในห้องโถงใหญ่ชั้นล่างของแกลอรี่ได้อย่างพอดี แต่ถึงกระนั้นข้างในมันก็มืดมิดนัก ความรู้สึกของชายวัยกลางคนรู้สึกเหมือนว่าตนเองเป็นเหยื่อที่ระแวดระวังภัยในป่า โสตประสาทรับรู้แต่เพียงว่าในป่าแห่งนี้มีเสือที่ไม่เห็นตัวแต่รับรู้ได้ว่ามันจ้องมองอยู่มันรอคอยที่จะป้องตะปบเหยื่อหากเผลอเรอ

            “เฮ้ย! ไอ้ห่านี่ มึงฟังกูพูดอยู่หรือเปล่าวะ”

            ชายอีกคนร่างผอมเกร็งสบถออกมาอย่างหัวเสีย แม้จะเพียงเสียงบางเบาแต่ก็รู้ได้ว่าหงุดหงิดใจน่าดู เรียกสติผู้ที่งัดแงะกลับมาจากห้วงจินตนาการ 

            “แม่ง...เชี้ยเอ๊ย... มึงไปตามไอ้วิทย์มาไป ให้มันเข็นรถเข้าล่ะ ซอยแม่งยิ่งแคบๆ อยู่ด้วย เดี๋ยวใครโผล่มาเห็นเข้าแม่งก็เพ่นไม่ทันพอดี....เฮ้ย! ไปดิ กูจะเฝ้าตรงนี้เอง”

            “มึงแน่ใจนะ ว่ามึงอยู่คนเดียวได้” ชายร่างหนาผู้ทำหน้าที่สะเดาะกุญแจสบตาเพื่อนร่วมโจรกรรมด้วยความกังวลไม่แน่ใจปนเป็นห่วงเพื่อนร่วมอาชญากรรมขึ้นมาดื้อๆ

            “นี่มึงไปเลยนะ ไอ้เชี้ย มึงจะให้กูด่าอีกกี่ครั้งเนี่ย มึงช้าเดี๋ยวพ่อมึงก็แห่กันมาเพียบ ไปดิ กูบอกว่ากูอยู่ได้”

            ชายร่างหนาเดินจากไปด้านหน้าซอยที่มีเพียงแสงไฟสลัวจากนีออนป้ายโฆษณาไม่วายที่จะหันมามองเพื่อนเกลอด้วยความเป็นห่วงอีกครั้ง ก่อนจะรีบก้มๆ เงยๆ เดินออกไปด้วยความรวดเร็ว เงียบเชียบ

            ชายร่างผอมเกร็งนั่งปัดยุงที่รุมกัดตามใบหน้าและแขนขาที่โผล่พ้นชายเสื้อชายกางเกงออกมา มือหยาบยกข้อมือดูนาฬิกาบ่อยครั้ง ผ่านไปกว่า ๑๕ นาทีแล้ว ใบหน้าซีดตอบผมตัดเกรียนสั้นชะเง้อมองด้านหน้าซอยยังไม่เห็นแม้วี่แววที่เพื่อนเกลอจะเข็นรถเข้ามา ดวงตาโบ๋ลึกเหมือนคนอดนอนซีดเซียวชะโงกมองด้านในของแกลอรี่

แม้ด้านในจะมืดมิดแต่ก็เห็นแสงว่อบแว่บได้รำไรจากเครื่องทองเครื่องประดับของเหล่านางอัปสรที่ตั้งอยู่ด้านหน้าสุดของประตูแกลอรี่ อีกทั้งสีขาวมุกที่ดูจะกระจ่างตาในที่มืดของชุดโต๊ะรับแขกตัวใหญ่สำหรับรับรองแขกที่แวะเข้ามาชมแกลอรี่หรือเลือกซื้อหาของประดับตกแต่งบ้าน แม้ด้านในจะมืดมิดเห็นได้เพียงแสงสว่างรำไรจากวัตถุโบราณเหล่านั้น แต่เวลาและออเดอร์ที่ได้รับมานั้นไม่สอดคล้องกันเลย ชายร่างผอมส่ายหัวไปมาด้วยอารมณ์เสียดวงตาโบ๋ลึกชะเง้อมองเพื่อนร่วมอาชีพอีกครั้ง

            ร่างเล็กคลานเข่าเข้าไปด้านในแกลอรี่อย่างเงียบเชียบถึงจะรู้ว่าแกลอรี่แห่งนี้ไม่มีคนเฝ้าแต่เพื่อความไม่ปรามาทโจรมืออาชีพจึงลองคลานเข้าไปก่อนจะดีกว่า หากว่าวันนี้เจ้าของแกลอรี่ชายหนุ่มคนนั้นเปลี่ยนใจให้คนมาเฝ้างานคงสำเร็จได้ยาก ร่างเล็กกลืนน้ำลายลงคออย่างอยากเต็มที ยิ่งคลานเข้ามาลึกถึงใจกลางโถงยิ่งรู้สึกเหมือนตกอยู่ภายใต้วงล้อมปีศาจก็ไม่ปาน

“แกลอรี่ผีสิง” เสียงร่ำลือเล่าขานปากต่อปากในหมู่นักค้าวัตถุโบราณและหนังสือพิมพ์ประโคมข่าวเมื่อปีกลายเรื่องแกลอรี่แห่งนี้ถูกนักโจรกรรมมืออาชีพยกโขยงกันเข้ามาหวังจะยกเค้าไปทั้งหมด ไอ้โจรมืออาชีพนั่นมันคงเข้ามาดูลาดเลาอยู่หลายวันแล้วเพราะอุปกรณ์ที่มันขนมาทั้งตัวตัดถ่างกุญแจตัวใหญ่ อุปกรณ์งัดแงะต่างๆ และรถสิบล้อสำหรับขนของอีก ๒ คัน แม้จะต่างวิธีการต่างอุปกรณ์กันแต่มันคิดเหมือนกันอย่างหนึ่งคือเห็นว่าแกลอรี่แห่งนี้ไม่มีคนเฝ้าก็เลยเป็นจุดประสงค์แห่งการโจรกรรมครั้งนี้อีกเช่นกัน แต่ต่างกันที่ครั้งนี้เขาได้ออเดอร์ให้มาเอาของเพียงชิ้นเดียวเท่านั้น

สิ่งที่เรียกอาการขนหัวลุกและเป็นที่ร่ำลือที่ทำให้ร่างเล็กๆ ต้องหันซ้ายหันขวาระแวดระวังนั่นคือ 

รายละเอียด

การพลัดพรากจากรักคือ..สิ่งที่เป็นทุกข์ แต่ก็ยังมีผู้ที่ยอมทุกข์เพื่อให้ผู้เป็นที่รักได้สมหวัง บางครั้งเราอาจจะเคยรับรู้เรื่องราวความรักของผู้คนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตซึ่งมีทั้งรักสมหวังและรักที่ไม่สมหวัง มีผู้เสียสละ มีผู้ที่ได้รับชัยชนะและมีผู้ที่ได้รับความทุกข์ทรมานจิตใจอย่างแสนสาหัส บางคนยอมรับในความทุกข์ ในกรรมที่เกิดขึ้นเพื่อหวังให้กรรมนั้นบรรเทาเบาบางลงและหมดสิ้นกันไปในชาตินี้หรือชาติหน้า โดยไม่ร้องขอไม่อ้อนวอนและยอมรับความทุกข์ระทมนั้นแต่โดยดี แต่ใครจะรู้บ้างเล่าว่าความทุกข์ที่ได้รับนั้นล้วนมีที่มาที่ไปอย่างไร

            นิยายเรื่องนี้ถือเป็นภาคต่อจาก “อริตวรรธน์-ครุฑานาคา” โดยหวังให้ความรักระหว่าง “องค์เคสินาคา-เจ้าทับทิมน้อย” ได้สมหวัง หากแต่กว่าจะได้รักนั้นมาครอบครองทั้งสองก็ต้องเผชิญกับวิบากกรรมที่พร้อมจะทวงคืน ในเส้นทางความรักยังได้สอดแทรกความแน่แท้แห่งสัจธรรมที่ว่า “ผู้ใดก่อกรรมดีย่อมชักพาความดีมาใส่ตัว ผู้ใดก่อกรรมชั่วไม่พ้นความชั่วจะมาเยือน” และ “ทุกสรรพสิ่งสามารถก้าวล่วงความดี-ความชั่วได้เพียงความคิดของตนเท่านั้น”


รีวิว (0)


สินค้าที่ใกล้เคียง (71 รายการ)

www.batorastore.com © 2024